วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เปิด"คำวินิจฉัย" หลักเกณฑ์แต่งตั้ง"พิลึก" ! ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ

วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 15:30:15 น.  มติชนออนไลน์

เปิด"คำวินิจฉัย" หลักเกณฑ์แต่งตั้ง"พิลึก" ! ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ


คำวินิจฉัยของคณะ กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ที่ให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนายอำเภอ ประเภทอำนวยการระดับสูง ประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ตามคำสั่ง มท.ที่ 28/2553 ลงวันที่ 15 มกราคม 2553


ที่ ก.พ.ค.มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 นั้น

เอกสารทั้งหมด 57 หน้า โดยหน้าแรกได้บอกผู้ร้อง คือ นายประกาศิต มหาสิงห์ และคู่กรณีในการร้องทุกข์ คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ในรายละเอียด คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ได้วินิจฉัย โดยมีเนื้อหาบางตอนที่น่าสนใจดังนี้

- คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรือนขึ้นดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย ได้มีมติเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2552 กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกข้าราชการพลเรือนสามัญเลื่อนขึ้นดำรง ตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง ของทุกกรมในกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ 2553 ประกอบด้วย

ก.องค์ประกอบด้านประวัติรับราชการ 50 คะแนน พิจารณาจาก วันเข้าตำแหน่งอำนวยการต้น 30 คะแนน อัตราเงินเดือนปัจจุบัน 10 คะแนน อายุราชการ 10 คะแนน

ข.องค์ประกอบด้านความรู้ ความสามารถ 50 คะแนน พิจารณาจาก การประเมินการปฏิบัติงานของผู้บังคับบัญชา 10 คะแนน ผลงานดีเด่น ย้อนหลัง 5 ปี 15 คะแนน ข้อเสนอเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ในตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง 15 คะแนน และสัมภาษณ์ 10 คะแนน

ปรากฏว่ากรมการปกครอง กำหนดรายละประเมิน ดังนี้

0ประวัติการรับราชการ 50 คะแนน พิจารณาจาก

1.ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 30 คะแนน คำนวณช่วงคะแนน ดังนี้

1.1) 11 ปีขึ้นไป คิดเป็น 30 คะแนน ปรากฏว่ามีผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอนานถึง 17 ปี (11-17 ปี มีช่วงห่าง 6 ปี)

1.2) 8-10 ปีกว่า แต่ไม่ถึง 11 ปี (ช่วงห่าง 3 ปี) คิดเป็น 29.5 คะแนน

1.3) 6-7 ปีกว่า แต่ไม่ถึง 9 ปี (ห่างกัน 2 ปี) คิดเป็น 29 คะแนน

1.4) 4 -5 ปีกว่า แต่ไม่ถึง 6 ปี (ห่างกัน 2 ปี) คิดเป็น 28.5 คะแนน

1.5) 1-3 ปีกว่า แต่ไม่ถึง 4 ปี (ห่างกัน 3 ปี) คิดเป็น 28 คะแนน

ก.พ.ค. เห็นว่า ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหรืออำนวยการระดับต้น 30 คะแนนนี้มีช่วงห่างของคะแนนเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ทั้งที่ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายอำเภอหรือผู้อำนวยการระดับต้นต่างกันมาก ถึง 17 ปี

2.อัตราเงินเดือน 10 คะแนน ให้น้ำหนักคะแนน ดังนี้

2.1) ขั้นที่ 23-24 คิดเป็น 10 คะแนน

2.2) ขั้นที่ 21.5-22.5 คิดเป็น 9.5 คะแนน

2.3) ขั้นที่ 20-21 คิดเป็น 9 คะแนน

2.4) ขั้นที่ 18.5-19.5 คิดเป็น 8.5 คะแนน

2.5) ขั้นที่ 17-18 คิดเป็น 8 คะแนน

2.6) ขั้นที่ 15.5-16.5 คิดเป็น 7.5 คะแนน

2.7) ขั้นที่ 14-15 คิดเป็น 7.0 คะแนน

2.8) ขั้นที่ 12.5-13.5 คิดเป็น 6.5 คะแนน

สำหรับในส่วนของอัตราเงินเดือนนี้ มีช่วงห่างของคะแนน 3.5 คะแนน

3.อายุราชการ 10 คะแนน แบ่งเป็น

3.1) 33 ปีขึ้นปี คิดเป็น 10 คะแนน

3.2) 28-32 ปีกว่าแต่ไม่ถึง 33 ปี คิดเป็น 9.5 คะแนน

3.3) 23-27 ปีกว่าแต่ไม่ถึง 28 ปี คิดเป็น 9 คะแนน

3.4) 17-21 ปีกว่าแต่ไม่ถึง 23 ปี คิดเป็น 8.5 คะแนน

สำหรับในส่วนอายุราชการนี้มีช่วงว่างของคะแนน 1.5 คะแนน

ก.พ.ค. วินิจฉัยว่า เกิดผลคะแนนที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่มีอายุราชการมากกว่า และเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้มีอายุราชการน้อยกว่าที่มีคะแนนประเมินเท่ากับผู้ ที่มีอายุราชการมากกว่า เพราะช่วงการให้คะแนนเรื่องอายุราชการผู้เข้ารับการประเมินมีช่วงแคบเพียง 8.5-10 คะแนน จึงไม่เหมาะสม ไม่เป็นธรรม มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้บุคคลบางราย เป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม

นอก จากนี้ ยังพบว่าน้ำหนักคะแนนจะอยู่ในส่วนของประวัติการรับราชการเพียง 1 ใน 3 แต่อยู่ในด้านความรู้ความสามารถมากถึง 2 ใน 3 เป็นการไม่ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ฝ่ายปกครองกำหนดไว้ล่วงหน้าคือ 50:50 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ทำให้เกิดผลในทางที่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้ารับการประเมินบางราย ที่มีประวัติการรับราชการที่อาวุโสน้อย อันเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมแก่ผู้ที่อาวุโสมาก

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบผลคะแนนระหว่างประวัติการรับราชการ กับคะแนนความรู้ความสามารถทั้งสองส่วนแล้ว ทำให้เห็นได้ว่ามีค่าน้ำหนักในผลการประเมินไม่เท่ากัน ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการคัดเลือก นั่นคือ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่เป็นผู้มีอาวุโสน้อย (ตำแหน่งว่าง 46 ตำแหน่ง แต่มีผู้อาวุโสที่อยู่ใน 46 ลำดับแรกได้การคัดเลือกเพียง 5 คน)

ยกตัวอย่าง บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับที่ 1 อาวุโสตามบัญชีกรมการปกครอง ได้จัดไว้เป็นลำดับที่ 81

บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับที่ 2 มีอาวุโสตามบัญชีที่กรมการปกครองจัดทำไว้เป็นลำดับที่ 327

บุคคลที่ได้รับการคัดเลือกเป็นอันดับที่ 3 มีอาวุโสตามบัญชีกรมการปกครองจัดทำไว้เป็นลำดับที่ 329 เป็นต้น

สำหรับผู้ร้อง คือ นายประกาศิต มหาสิงห์ มีอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 4 ได้รับคัดเลือกเป็นอันดับที่ 107

กรณี ดังกล่าวจึงไม่เป็นกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรม และเอื้อให้แก่ผู้เข้ารับการประเมินบางรายที่มีประวัติการรับราชการที่ อาวุโสน้อย

ต้องขอยืมคำพูด นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยอีกที "เห็นบัญชีแต่งตั้งเช่นนี้ ไม่ต้องเอาสมองคิด แค่เอาเท้าคิด ก็รู้ว่าไม่เป็นธรรมแล้ว ทุเรศที่สุด"