วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 07:46:40 น. มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1277167628&grpid=00&catid=
ตำรวจรับมือพระราชทานเพลิง"เสธ.แดง"วันนี้ สาวโผล่อ้างเป็นเมียพร้อมลูกวัย 5 ขวบ "ดช.นักรบ สวัสดิผล"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 22มิ.ย. เวลาประมาณ 17.00 น. จะมีงานพระราชทานเพลิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ"เสธ.แดง" ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคากการณ์ว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานกันจำนวนมาก โดยเฉพาะแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. โดยศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า มีความเคลื่อนไหวเข้าร่วมงานหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่ม นปช.เชียงใหม่ จำนวน 30 คน นำโดย นายศรีวรรณ จันทร์ผง และนายมหวรรณ กะวัง กลุ่มสมาชิกชมรมคนเสื้อแดงนครพนม 52 จำนวน 20 คน กลุ่ม นปช.อ.เมืองตาก จำนวน 10 คน นำโดย นายณรงค์ บัวบาน กลุ่ม นปช.แพร่ ประมาณ 50 คน นำโดย นายสันติ ศักดิ์ศรี กลุ่ม นปช.นครสวรรค์ 51 และ นปช.นครสวรค์ 52 ประมาณ 30 คน นำโดย นายไชยโรจน์ วงศ์สิทธิกร และนางธรพร แซ่ตั้ง
นอกจากนี้รายงานข่าวจากสันติบาลแจ้งว่า ยังมีกลุ่ม นปช.อุตรดิตถ์เตรียมเข้าร่วมงาน 50 คน นปช.เลย ประมาณ 20 คน นปช.หนองคาย ประมาณ 30 คน นปช.อุบลราชธานี ประมาณ 20 คน นปช.ชัยภูมิ ประมาณ 60 คน นปช.นครราชสีมา ประกอบด้วย กลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม 51 ประมาณ 15 คน กลุ่มแดง ดี ดี คลับ นครราชสีมา ประมาณ 15 คน กลุ่มการ์ดและแนวร่วม นปช.นครราชสีมา ประมาณ 20 คน เป็นต้น
ด้านขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยว่า บช.น.มอบหมายให้เป็น ผบ.เหตุการณ์ มีรอง ผบก.อีก 4 คนแบ่งหน้าที่กันทำงาน ทั้งการจราจร กำลังตำรวจปราบจลาจล กำลังสนับสนุน การสืบสวนสอบสวน รวม 800 นาย หน่วยที่สำคัญๆ ในการดูแลความเรียบร้อยก็คือ กองร้อย ปจ. 4 กองร้อย ตำรวจนอกเครื่องแบบ สายตรวจปะฉะดะ สายตรวจสายสมร และตำรวจจราจรเพื่อดูแลความเรียบร้อยด้านจราจร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งการให้ ผกก.สน.นางเลิ้ง ประสานดูแลความเรียบร้อยบริเวณงานทั้งหมด คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก
"จากการข่าวไม่คาดว่าน่ามีความรุนแรงแต่อย่างใดเพราะเป็นงานศพ เป็นงานเศร้าโศก แต่ตำรวจไม่ประมาทวางกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบดูแล รวมถึงก่อนการจัดงานจะให้หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบพื้นที่ก่อนจะมอบให้ตำรวจในพื้นที่ดูแลต่อไป" ผบก.น.1 กล่าว
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงการจัดอำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณโดยรอบวัดโสมนัสราชวรวิหารว่า ในวัดไม่มีที่จอดรถ ผู้ที่นำรถยนต์มาเองคงต้องใช้ที่จอดรถบริเวณริมถนนกรุงเกษม ถนนลูกหลวง และ ถนนราชดำเนิน ช่องคู่ขนานทั้งเส้น นอกเหนือจากนั้นก็ให้ไปจอดได้ที่สนามม้านางเลิ้ง พระราม 8 สนามหลวงบางส่วน บริเวณลานจอดรถในวัดจะเว้นพื้นที่ให้ว่างไว้ การจัดการจราจรจะให้เข้าทางด้านถนนกรุงเกษมและถนนราชดำเนิน ออกทางด้านถนนนครสวรรค์และถนนจักรพรรดิพงษ์ ใช้ระบบวันเวย์ คาดว่าคนจะมามากแต่ระบุจำนวนไม่ได้
ทางด้าน "เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเดินทางไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปิ่นเกล้า เพื่อขอพบ และพูดคุยกับ น.ส.ลัดดาวัลย์ พลฤทธิ์ อายุ 33 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช หลังทราบข้อมูลว่า น.ส.ลัดดาวัลย์ อ้างว่า เป็นภรรยาอีกคนหนึ่ง ของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก โดยเธออ้างว่า ได้คบหากับ เสธ.แดง มานานจนมีบุตรชายด้วยกัน แต่ยังไม่เคยมีใครนำเรื่องนี้มาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวเดินไปถึงที่ร้านตามนัดหมายก็พบ น.ส.ลัดดาวัลย์ พร้อมบุตรชายทราบชื่อคือ ด.ช.นักรบ สวัสดิผล หรือ "น้องแดงน้อย" อายุ 5 ขวบ มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว จากการสอบถาม น.ส.ลัดดาวัลย์ เล่าให้ฟังว่า รู้จักกับ เสธ.แดง ตั้งแต่ปี 2546 ช่วงนั้นตนทำงานเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง มีภารกิจที่ต้องติดตามข่าวสารของ เสธ.แดง จึงมีการแลกเบอร์โทรศัพท์กันไว้ และติดต่อกันเรื่อยมา ทำให้ตนทราบว่า เสธ.แดง เป็นพ่อหม้ายมีลูกติด ส่วนภรรยาเสียชีวิตไปแล้วจึงตัดสินใจคบหากระทั่งเกิดความรู้สึกที่ดี และมีสัมพันธ์กัน หลังจากที่รู้จักกันได้ประมาณ 1 ปี
น.ส.ลัดดาวัลย์ เล่าต่อว่า จากนั้นเมื่อปี 2547 ตนได้ตั้งครรภ์กับ เสธ.แดง ซึ่งทาง เสธ.แดง ก็แสดงความรับผิดชอบมาตลอด จนคลอดลูกออกมาเป็นบุตรชาย ทำให้ เสธ.แดง ดีใจมาก โดยตั้งชื่อให้ว่า ด.ช.นักรบ และยินยอมให้ใช้นามสกุล สวัสดิผล พร้อมทั้งยังเป็นผู้ตั้งชื่อเล่นให้ด้วยว่า น้องแดงน้อย ซึ่งในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ตนพาลูกกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วน เสธ.แดง ก็คอยดูแลส่งเสีย และมักหาเวลานัดพบตนกับลูกอย่างสม่ำเสมอเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง กระทั่งปัจจุบันนี้บุตรชายเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เสธ.แดง ก็มักจะพาลูกไปเที่ยวสวนสัตว์ ไปขี่ม้า และพาไปดูรถถัง โดยความฝันของ เสธ.แดง คืออยากให้ลูกเป็นนายทหาร และเป็นนักรบที่เก่งให้ได้เหมือนอย่างพ่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพอทราบข่าวการเสียชีวิตของ เสธ.แดง แล้วรู้สึกอย่างไร น.ส.ลัดดาวัลย์ ตอบว่า รู้สึกใจหาย และเสียใจมากเพราะ เสธ.แดง ถูกยิงก่อนวันที่น้องแดงน้อย จะเปิดเทอมเพียง 1 วัน ซึ่งในช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค. ตนพยายามโทรศัพท์หา เพื่อบอกว่าลูกกำลังจะไปโรงเรียน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมีญาติสนิทมาแจ้งข่าวว่า เสธ.แดง ถูกยิงตั้งแต่ช่วงกลางดึกอาการเป็นตายเท่ากัน ตอนนั้นพยายามให้กำลังใจตัวเองด้วยการสวดมนต์ไหว้พระบอกกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ และทำใจเรื่อยมา จนเสธ.แดง สิ้นลมที่วชิรพยาบาลเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึงสาเหตุที่ตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสังคม น.ส.ลัดดาวัลย์ ตอบว่า ตนพาลูกเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อมากราบศพ เสธ.แดง เป็นครั้งสุดท้าย เพราะในวันที่ 22 มิ.ย. ก็จะมีพิธีพระราชเพลิงศพที่วัดโสมนัสแล้ว ทีแรกตั้งใจว่าจะพากันไปที่วัดตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อถ่ายรูปหน้าศพเก็บไว้ เป็นที่ระลึก และจะอยู่กันอย่างเงียบๆ จนเสร็จพิธี พอคิดอีกทีก็รู้สึกสงสารลูกที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลับๆ มาตลอด 5 ปีแล้ว ซึ่งจากนี้ไปน้องแดงน้อย ควรอยู่ในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี และบอกใครๆ ได้เต็มปากว่า เป็นลูกชายของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล โดยเฉพาะหากตนมีโอกาสทำความฝันของ เสธ.แดง ด้วยการส่งเสียผลักดันให้ลูกได้เป็นนายทหารจริงๆ ลูกจะได้ไม่รู้สึกลังเลที่จะบอกใครต่อใครว่าเป็นทายาทของ เสธ.แดง
"ขอยืนยันว่าไม่ได้ออกมาเรียกร้องเพื่อขอรับสิทธิ์หรือขอความช่วย เหลือจากผู้ใดทั้งสิ้น เพราะวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะทำธุรกิจหาเลี้ยงลูกด้วยลำแข้งของตัวเอง ที่ตัดสินใจเอาเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนก็เพื่อความชอบธรรมของลูก ที่ต้องใช้ชีวิตต่อไปในสังคมเท่านั้น โดยตนพร้อมที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุกอย่างว่า น้องแดงน้อย เป็นทายาทของ เสธ.แดงจริงๆ และตนก็ไม่กลัวถ้าหากมีใครต้องการให้พิสูจน์เรื่องนี้ด้วยผลตรวจทางดีเอ็นเอ" น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าว
ด้าน ด.ช.นักรบ สวัสดิผล หรือ "น้องแดงน้อย" ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวอย่างไร้เดียงสาว่า "คุณพ่อหนูชื่อ ขัตติยะ สวัสดิผล ตอนนี้ตายไปแล้วเพราะถูกผู้ร้ายยิง หนูคิดถึงคุณพ่อมาก อยากให้คุณพ่อพาไปสวนสัตว์ ดูจระเข้ ดูฮิปโป ขี่ช้าง อยากให้คุณพ่อสอนยิงปืนใส่ก้อนหินให้อีก หนูจะตั้งใจเรียนเพราะอยากเป็นทหารเหมือนคุณพ่อ"
วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7144 ข่าวสดรายวัน
โดน"สไนเปอร์"ส่องหัว ถูกยิงดับ-ที่หมอเหล็ง อีกราย-เมียสูญหาย! ตร.นัดสอบ"นิก"เยอรมัน
สูญหาย- นายสมนึก ชีโพธิ์ โชว์รูปนางแจ่มจันทร์ ภรรยาที่หายสาบสูญไปช่วงสลายม็อบแดง ส่วนรูปเล็กศพเด็กชายวัย 12-13 ปีถูก สไนเปอร์ยิงตายบริเวณซอยหมอเหล็ง ซึ่งตำรวจสน.พญาไทระบุว่ายังไม่มีญาติมาติดต่อรับศพ ตามข่าว
ตำรวจสน.พญาไทนัดนักข่าวเยอร มันให้ปากคำคดีทหารยิงแท็กซี่ตาย เผยยังมีอีก 4 ศพนิรนามที่ถูกยิงระหว่างกระชับพื้นที่ ย่านหมอเหล็ง สุดสลดหนึ่งในนั้นเป็นเด็กชายอายุ 12 ปีโดนยิงที่หัวสิ้นใจตาย อีกรายเป็นหญิงชาวพิจิตรถูกยิงระหว่างเดินเก็บของเก่า ผัวเผยตามหาเมียที่ไปร่วมชุมนุมแล้วสูญหายไปจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม ตามหาทุกแห่งแล้วแต่ก็ไม่พบตัว
จากกรณีนายนิก นอสติทซ์ ผู้สื่อข่าวอิสระชาวเยอรมัน เข้าแจ้งความตำรวจสน.พญาไท ให้ช่วยติดตามตัวชายที่ถูกยิงเสียชีวิตที่ย่านราช ปรารภ ล่าสุดทราบแล้วว่าผู้เสียชีวิตคือ นายชาญณรงค์ พลศรีลา ซึ่งนายนิกได้เดินทางไปพบน.ส.มนชยา หรือน้องส้มโอ พลศรีลา อายุ 25 ปี ลูกสาวนายชาญณรงค์ และเล่าเหตุการณ์ที่นายชาญณรงค์ถูกยิงตายให้น.ส.มนชยาฟัง ต่อมาน.ส.มนชยาเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานในเหตุการณ์ที่พ่อถูกยิงตาย ทวงถามความยุติธรรม เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดกับคนสั่งการ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายนิกให้ช่วยติดตามตัวนายชาญณรงค์ว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว เชื่อว่าผู้เสียชีวิตคือนายชาญณรงค์จริง และได้ให้นายนิกไปรวบรวมภาพถ่ายที่สามารถยืนยันได้ และได้นัดให้มาพบอีกในวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย.
พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ กล่าวว่าในเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ทหารเข้ากระชับพื้นที่โดยปิดล้อมพื้นที่ในถนนราชปรารภจนถึงย่านประตูน้ำ เมื่อวันที่ 17-19 พ.ค. และมีการยิงปะทะกับการ์ดนปช. และประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายรายในย่านหมอเหล็ง ในจำนวนนี้มี เพศชาย จำนวน 3 ราย และเพศหญิง 1 ราย ที่ถูกยิงเสียชีวิตในช่วงดังกล่าวในจุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่ใน ย่านหมอเหล็ง ที่อยู่ในถนนราชปรารภ จนถึงบริเวณทางรถไฟ มีระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร ซึ่งผู้เสียชีวิตที่เป็นชายทั้งหมดนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อและยังไม่มีญาติมาติดต่อกับทางตำรวจแต่อย่างใด และในจำนวน 3 รายนี้ มีอยู่ 1 รายเป็นเพศชาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรูปไปให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุและพบศพดู ก็ทราบว่าเป็นคนใบ้ มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และรูปศพของเด็กชายอายุประมาณ 13 ปี รวมอยู่ด้วย 1 ราย ที่เสียชีวิตอยู่ในบริเวณย่านหมอเหล็ง ส่วนศพของผู้หญิงที่มีข่าวว่าเป็นคนเก็บของเก่านั้นขณะนี้มีข้อมูลว่าเป็นชาวจังหวัดพิจิตร "ในวันจันทร์ที่ 21 มิ.ย.พนักงานสอบสวนได้นัดสอบปากคำ นายนิก นอสติทซ์ ผู้สื่อข่าวอิสระ ชาวเยอรมัน ในเวลาประมาณ 13.00 น. ที่สน.พญาไท"
พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ กล่าวอีกว่า เด็กชายอายุประมาณ 12-13 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตคาที่ อีกรายเป็นผู้หญิงวัยกลางคนอีก 1 คน เบื้องต้นพอทราบแล้วว่าเป็นชาวจังหวัดพิจิตร เป็นคนเดินเก็บของเก่าอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีญาติพี่น้องมาติดต่อรับศพ จึงฝากประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ที่สงสัยว่าเป็นญาติพี่น้องที่หายตัวไปสามารถขอดูภาพถ่ายได้ที่สน.พญาไท โดยเฉพาะศพเด็กชายวัย 12-13 ปี หากใครเป็นญาติ ขอให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
หลังจากที่น.ส.พ.ข่าวสด สืบหาญาติของผู้สูญหายที่แจ้งหายไว้กับมูลนิธิกระจกเงา หลังจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยุติลง ซึ่งบางรายพบตัวแล้ว แต่บางรายยังไม่พบ เช่นเดียวกับกรณีนางแจ่มจันทร์ ชีโพธิ์ อายุ 48 ปี ถูกแจ้งเป็นผู้สูญหายในกลุ่มนปช. อยู่บ้านเลขที่ 13/18 หมู่ 2 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากเดินทางไปตามที่อยู่ดังกล่าว พบกับนางหนูแดง พินานันทชัย อายุ 53 ปี กล่าวว่า นางแจ่มจันทร์ เป็นน้องสะใภ้ของตน ขณะนี้นายสมนึก ชีโพธิ์ ซึ่งเป็นน้องชายของตน และสามีของนางแจ่มจันทร์ กำลังตามหาอยู่เช่นกัน
"ป้า กับแจ่มจันทร์ เจอกันบ้าง และรู้ว่าแจ่มจันทร์ ชอบไปชุมนุมกับพวกเสื้อแดง แต่ทางสมนึก แฟนเขาก็ไม่อยากให้ไป จากนั้นแจ่มจันทร์ก็หายตัวไปเมื่อเดือนพ.ค. ไม่ติดต่อมาอีกเลย ก่อนหน้านี้เคยถามแบบแหย่ว่า ไปชุมนุมกับเสื้อแดงเนี่ยได้ตังค์มั้ย ถ้าได้ป้าจะได้ไปด้วย แล้วที่หลับที่นอนหละนอนที่ไหน แจ่มจันทร์บอกว่า ไม่เคยได้ตังค์หรอก แต่ไปด้วยใจ ส่วนเรื่องที่นอนก็นอนใต้สะพานลอย ไม่ก็นอนใต้สะพานรางรถไฟฟ้า และไม่เคยกลัวเพราะสนุกมาก" นางหนูแดง กล่าว
เมื่อถามว่าตอนนี้กังวลเรื่องอะไรมากที่สุด นางหนูแดง กล่าวว่า กังวลว่าแจ่มจันทร์จะตายไป แต่ถ้าได้รู้ข่าวว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าจะอยู่กับใคร จะเป็นนปช.คนไหน กลุ่มไหนก็รู้สึกสบายใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพูดคุยกับนางหนูแดง ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ เพื่อติดต่อกับนายสมนึก สามีของนางแจ่มจันทร์ จนมาพบนายสมนึก ที่บ้านพักในซอยร.ร.อัมพรไพศาล ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสมนึก กล่าวว่า นางแจ่มจันทร์ หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. ก่อนจากกันเป็นครั้งสุดท้าย นางแจ่มจันทร์ ได้ขออนุญาตกับตนว่าจะไปร่วมชุมนุม แต่ตนขอร้องไม่ให้ไป หลังจากที่ตนออกไปทำงาน พอกลับมาก็ไม่พบกับนางแจ่มจันทร์ แล้ว
"ก่อนหน้านี้แจ่มจันทร์ ไม่เคยเล่าให้ผมฟังว่าไปร่วมชุมนุมมา ปกติแจ่มจันทร์ เป็นคนชอบเข้าวัด นั่งสมาธิ แต่วันที่ 6 พ.ค. เขาเป็นอะไรไม่ทราบมาขอกับผมว่า จะไปชุมนุมกับเสื้อแดง เห็นว่ามีพรรคพวก เพื่อนของเขามาชวนไป แต่ผมขอว่าอย่าไปเลย อยากให้อยู่บ้านดูแลลูกๆ พอตอนเย็นผมกลับมา แจ่มจันทร์ก็ไม่อยู่แล้ว มาดูเสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบ" นายสมนึกกล่าว
นายสมนึก กล่าวถึงชีวิตแต่งงานระหว่างตนกับนางแจ่มจันทร์ว่า แต่งงานกันมากว่า 30 ปีแล้ว เป็นคน จ.นครศรีธรรมราช เหมือนกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน ปัจจุบันตนมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ส่วนแจ่มจันทร์ อยู่บ้านเป็นแม่บ้าน หลังจากที่แจ่มจันทร์หายไป ตนได้เดินทางเข้าไปประกาศหาในที่ชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ถึง 3 ครั้ง แต่แจ่มจันทร์ก็ไม่เคยออกมาพบกับตนเลยสักครั้ง จากนั้นได้วานให้เพื่อนที่ไปชุมนุมประกาศหานางแจ่มจันทร์ อยู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยพบเลย
"หลังจากมีการสลายการชุมนุม ผมได้เดินทางไปแจ้งความคนสูญหายที่มูลนิธิกระจกเงา สน.ปทุมวัน สน.ปากเกร็ด และเมื่อมีข่าวแจ้งว่านำตัวกลุ่มนปช. บางส่วนไปคุมขังที่เรือนจำคลองเปรม ที่ค่ายทหาร จ.จันทบุรี และจ.สระบุรี ก็ไปมาหมดแล้ว แต่คว้าน้ำเหลว ล่าสุดได้เดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารายชื่อผู้เสียชีวิต แต่ก็ไม่มีชื่อของเมีย นอกจากนี้ยังเดินทางไปดูศพผู้เสียชีวิตที่ ร.พ.กลาง ร.พ.ราชวิถี ร.พ.ตำรวจ เดินทางไปทุกที่ที่ข่าวออกมาว่านำตัวกลุ่มนปช.ไป แต่ไม่พบตัว" นายสมนึก กล่าวด้วยสีหน้าซึมเศร้า