เปิดบันทึก"ป.ป.ช."ตีแผ่ พฤติกรรมทุจริตสอบเข้าร.ร.นายอำเภอ 3บิ๊กมท.ส่อผิดอาญา-วินัย 142ผู้เข้าสอบเจอด้วย (ตอนแรก)
หมายเหตุ : คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่, นายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรมการปกครอง และนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน กรมการปกครอง ซึ่งเป็นตำแหน่งขณะนั้น รวม 4 คน มี ความผิดวินัยและอาญา รวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้เข้าสอบคัดเลือกอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ปีงบประมาณ 2552 จำนวน 142 คน ว่ามีความผิดวินัย ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่า เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และทางอาญา พร้อมเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหา
บันทึกแจ้งข้อกล่าวหามีความยาว 12 หน้า ระบุพฤติกรรมแห่งคดี 2 ช่วง
ช่วงแรก มีการออกข้อสอบช่วยเหลือข้าราชการ 150 คนที่ได้รับรายชื่อมาจาก ผู้มีอำนาจทางการเมือง อีกทั้งยังช่วยให้คะแนนสูงทั้งๆ ที่เขียนคำตอบไม่ดี ก่อนนำมาจัดลำดับที่และรุ่นให้สอบได้
ช่วงที่สอง เมื่อเกิดกระแสข่าวเรียกรับเงิน รายละ 8 แสนบาท ผู้เกี่ยวข้องเกรงจะถูกตรวจสอบ จึงให้ประธานนักเรียนอำเภอนำกระดาษคำตอบเปล่าพร้อมรายชื่อ 150 คนไปเขียนคำตอบใหม่ย้อนหลัง
"มติชน" ขอนำพฤติกรรมในช่วงแรกมาเสนอเป็นตอนแรก จากนั้นจะนำเสนอช่วงสองในวันต่อไป
-----------------------------------------------------------------
บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา
ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งที่ 179/2553 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 และที่ 328/2553 ลงวันที่ 5 สิงหาคม 2553 แต่งตั้งผู้รับผิดชอบสำนวนการไต่สวน และคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ช่วยในการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีตามคำร้องขอให้ถอดถอน นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่ง กรณีส่อว่า ทุจริตต่อหน้าที่และส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ (นอ.) ปี 2552 และกล่าวหาข้าราชการกรมการปกครอง (ปค.) อีกหลายคน มีส่วนร่วมกระทำความผิดดังกล่าว ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
บัดนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเสร็จแล้ว เห็นว่า ข้อกล่าวหานั้นมีมูลความผิด
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552
ปค.ออกประกาศเรื่องการสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตร นอ.ประจำปี 2552 จำนวน 3 รุ่น (รุ่น 68-70) สอบข้อเขียน วันที่ 22 มีนาคม 2552 ที่เมืองทองธานี แบ่งเป็น 2 ภาค ภาคเช้า ภาคความรู้ความสามารถทั่วไป มีข้อสอบปรนัย ซึ่งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบ และข้อสอบอัตนัย 1 ข้อ ซึ่ง ปค.เป็นผู้ออกข้อสอบ และตรวจกระดาษคำตอบ (ปกสีเหลือง) ภาคบ่าย ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง มีข้อสอบปรนัย ซึ่ง มสธ.เป็นผู้ออก และตรวจกระดาษคำตอบ และข้อสอบอัตนัย 1 ข้อ ซึ่ง ปค.เป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบ (ปกสีชมพู)
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552
ปค.มี คำสั่งที่ 135/2552 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกข้าราชการ เพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตร นอ.ปี 2552 มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการคัดเลือกข้าราชการเข้าศึกษา ประกอบด้วย
1.นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ รองอธิบดี ปค. กลุ่มภารกิจด้านการบริหารงานปกครอง ประธาน
2.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ (ผอ.กกจ.)
3.นายสุรพล สุวรรณานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานวินัย
4.หัวหน้ากลุ่มงานบรรจุและแต่งตั้ง
5.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน เป็นกรรมการ
วันที่ 9 มีนาคม 2552 ปค.มีคำสั่งที่ 205/2552 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการออกข้อสอบอัตนัย มีนายวุฒิชัย เสาวโกมุท และนายครรชิต สลับแสง เลขานุการ ปค. รวมอยู่ด้วย และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง ซึ่งมีนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นกรรมการรวมอยู่ด้วย โดยข้อสอบของผู้ใดได้รับการคัดเลือก ผู้นั้นจะเป็นผู้ตรวจข้อสอบอัตนัย
วันที่ 9 มีนาคม 2552
ปค.มีคำสั่งที่ 206/2552 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ประกอบด้วย
1.นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อปค. ประธาน
2.นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์
3.นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รอง อปค.
4.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผอ.กกจ.
5.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน เป็นกรรมการ
ปค.มีคำสั่งที่ 207/2552 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการเก็บรักษาโจทย์ข้อสอบอัตนัย ประกอบด้วย
1.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผอ.กกจ. ประธาน
2.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน
3.นายสุรพล สุวรรณานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานวินัย
4.นายอรรถพันธ์ สงวนเสริมศรี นักทรัพยากรบุคคล เป็นกรรมการ
วันที่ 13 มีนาคม 2552
ปค.ได้ประกาศรายชื่อ ผู้มีสิทธิสอบจำนวน 1,642 คน
วันที่ 17 มีนาคม 2552
มีข่าวแพร่หลายออกไปว่า ผู้บริหาร ปค.เรียกรับเงิน 800,000 บาท เพื่อช่วยเหลือให้สอบคัดเลือกได้ ปค. โดยนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ จึงมีหนังสือถึงทุกหน่วยงาน รายงานพฤติการณ์ทุจริตที่พบเห็นไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
วันที่ 18 มีนาคม 2552 มีหนังสือจาก นายวุฒิชัย เสาวโกมุท เชิญประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย นัดหมายประชุม
วันที่ 20 มีนาคม 2552
เวลา 17.00 น. ที่ห้องปฏิบัติการ อปค. เนื่องจากในวันที่ 22 มีนาคม 2552 นายวงศ์ศักดิ์ติดราชการอื่นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
ก่อนถึงวันประชุม (ระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคม 2552 เวลากลางวัน) นายวงศ์ศักดิ์ไปเชิญนายวุฒิชัยเข้าไปพบที่ห้องทำงาน อปค.และแจ้งว่า "ผู้มีอำนาจทางการเมือง" ในกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการผ่านมาทางนายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรม ว่า ในการสอบคัดเลือก นอ.ครั้งนี้ ผู้มีอำนาจดังกล่าวได้มอบ รายชื่อผู้เข้าสอบประมาณ 150 คน มาให้ และแจ้งว่าบุคคลเหล่านี้จะต้องสอบได้ ซึ่งหมายความว่าจะให้นายวุฒิชัยหาทางช่วยเหลือให้สอบได้ นายวุฒิชัยจึงตกลงทำตามคำสั่ง โดย หารือกันว่าในการคัดเลือกข้อสอบจะให้นำข้อสอบที่นายวุฒิชัยออกในวิชาความรู้ ความสามารถทั่วไปมาเป็นข้อสอบเพื่อสะดวกกับการให้คะแนนช่วยเหลือบุคคลตามราย ชื่อทั้ง 150 คนได้
นอกจากนี้ นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย ยังรู้จักและสนิทกับ นายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้โดยนัดแนะกันจะเลือกข้อสอบ ที่นายสำราญเป็นผู้ออกในวิชาความรู้ความสามารถ ที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง เพื่อให้นายสำราญช่วยเหลือ ในการให้คะแนนกับบุคคลตามระบุชื่อดังกล่าวได้
วันที่ 20 มีนาคม 2552 เวลา 17.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบตามนัดหมาย ณ ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ มีผู้เข้าร่วมประชุมคือ นายวงศ์ศักดิ์ นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ นายวุฒิชัย เสาวโกมุท และนายวีรเดช วิภูษาภรณ์ ทั้งนี้ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รอง อปค.ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากติดราชการอื่น ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมแล้วได้มีเจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่จัดพิมพ์บัญชีลงชื่อ ผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 5 คนไปให้บุคคลทั้ง 5 คนลงนามในภายหลังโดยระบุวันประชุมเป็นวันที่ 22 มีนาคม 2552 เพื่อให้ตรงกับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ โดยได้นำไปให้นายนิรันดร์ลงชื่อด้วย
ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบได้ตกลงเลือกข้อสอบที่นายวุฒิชัย และนายสำราญเป็นผู้ออกข้อสอบ เป็นไปตามที่นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัยตกลงกันล่วงหน้า โดยมีการปรับเปลี่ยนคำตอบของนายสำราญเล็กน้อย แต่ยังคงมีเค้าโครงเดิมอยู่ และเก็บรักษาข้อสอบและคำตอบดังกล่าวทั้ง 2 ข้อไว้ในกล่องเก็บรักษาในความครอบครองของนายวีรเดช ทั้งนี้ กุญแจกล่องดังกล่าวมีนายวุฒิชัยและนายวีรเดชเป็นผู้ถือ
วันที่ 22 มีนาคม 2552
มี การนำข้อสอบทั้ง 2 ข้อมาพิมพ์และให้ผู้เข้าสอบทำ โดยข้อสอบอัตนัยภาควิชาความรู้ความสามารถทั่วไปใช้สมุดกระดาษคำตอบปกสี เหลือง ภาควิชาความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งใช้สมุดกระดาษคำตอบปกสีชมพู มีข้อสอบ 2 วิชา คือ วิชาความรู้ความสามารถทั่วไป และวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง
เมื่อสอบเสร็จ กระดาษคำตอบปรนัย มสธ.เป็นผู้นำไปตรวจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วส่งผลการตรวจให้ ปค.ในวันที่ 23 มีนาคม 2552 โดยไม่ปรากฏพฤติการณ์ทุจริตในการตรวจข้อสอบปรนัยแต่อย่างใด
สำหรับกระดาษคำตอบอัตนัย ได้ถูกบรรจุแบ่งออกเป็น 2 กล่อง เป็นสมุดคำตอบปกสีเหลือง 1 กล่อง และสมุดคำตอบปกสีชมพู 1 กล่อง เจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำไปเก็บไว้ในห้องทำงานของ นายวุฒิชัย เสาวโกมุท และปิดล็อคไว้ มีเพียง นายวุฒิชัย และเจ้าหน้าที่หน้าห้องอีก 2 คน ได้แก่ น.ส.สรัญญา ใจงาม และนายดุสิต ศิริวราศัย เท่านั้นที่มีกุญแจเปิดได้
วันที่ 23 มีนาคม 2552-24 มีนาคม 2552
นายอรรถพันธ์ สงวนเสริมศรี นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ กกจ. และเจ้าหน้าที่ กกจ.อีก 7 คนช่วยกัน นำกระดาษคำตอบทั้ง 2 กล่อง มาลบข้อความ หรือเครื่องหมายที่พิสูจน์ตัวบุคคลเพื่อให้ผู้ตรวจไม่สามารถรู้ได้ว่า กำลังตรวจกระดาษคำตอบของผู้ใด โดยใช้วิธีตีหมายเลขรหัสไว้กับปกสมุด 2 ตำแหน่ง ตำแหน่งแรกอยู่กลางปก ตำแหน่งที่สองอยู่หัวมุมขวาด้านบน ซึ่งจะมีหมายเลขประจำตัวสอบของผู้เข้าสอบอยู่ จากนั้น จะตัดหัวมุมด้านบนออก แล้วนำมาเก็บแยกต่างหาก โดยนายอรรถพันธ์จะเป็นผู้เก็บรักษารหัสไว้เพียงคนเดียว โดยทำงานเสร็จสิ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2552 เวลาประมาณ 16.30 น.
หลังจากนั้นได้เก็บสมุดกระดาษคำตอบทั้ง 2 กล่องกลับเข้าไปยังห้องทำงานของนายวุฒิชัย จากนั้นนายอรรถพันธ์ได้นำรหัสที่ตนเก็บรักษาไว้ใส่ข้อมูลลงในไฟล์ คอมพิวเตอร์ ซึ่งในไฟล์ดังกล่าวเมื่อเปิดดูจะสามารถรู้ได้ว่าผู้เข้าสอบชื่อใด สังกัดใด หมายเลขประจำตัวสอบใด และรหัสสมุดคำตอบเลขที่ใด
วันที่ 25 มีนาคม 2552
เวลา กลางวัน นายวุฒิชัยได้เรียกนายอรรถพันธ์เข้าไปพบในห้องทำงานของตน และขอไฟล์รหัสดังกล่าวนายอรรถพันธ์จึงมอบไฟล์ข้อมูลดังกล่าวให้ไปโดยพิมพ์ เป็นกระดาษ เอ 4 ทั้งนี้ นายอรรถพันธ์ไม่เคยทราบมาก่อนว่านายวุฒิชัย เป็นกรรมการตรวจข้อสอบด้วย และต่อมานายอรรถพันธ์ได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้าส่วนให้ทราบ แต่นายวีรเดชก็มิได้ทักท้วงแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ทราบว่านายวุฒิชัยเป็นกรรมการตรวจข้อสอบอัตนัยด้วย
วันที่ 25 มีนาคม-31 มีนาคม 2552 นาย วุฒิชัยได้นำกระดาษคำตอบทั้งปกสีเหลืองและปกสีชมพูออกมาตรวจโดยนำรายชื่อที่ ได้รับมาจากนายวงศ์ศักดิ์ประมาณ 150 คน มาช่วยเหลือให้คะแนนสูง ทั้งๆ ที่เขียนคำตอบได้ไม่ดีหรือเขียนจำนวนน้อยแผ่น แต่ในกรณีของบุคคลอื่นๆ ที่นอกเหนือรายชื่อที่ได้รับมา หากเขียนคำตอบได้ดีมาก นายวุฒิชัยก็จะให้คะแนนมากด้วย แต่คนที่เขียนได้ดีนั้นมีจำนวนน้อย เป็นผลให้รายชื่อที่ได้รับมาเมื่อนำคะแนนที่ให้ไปรวมกับข้อสอบปรนัยแล้ว เป็นผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับการคัดเลือก อย่างไรก็ตาม เมื่อนำรายชื่อดังกล่าวมาเรียงลำดับที่และลำดับรุ่นแล้วยังไม่เป็นไปตามความ ประสงค์ของผู้สั่งการ นายวุฒิชัยจึงประสานงานกับนายครรชิต สลับแสง เลขานุการ ปค. เพื่อจัดลำดับว่ารายชื่อใดควรอยู่ในลำดับที่และรุ่นใด ซึ่งท้ายสุดก็ได้ลำดับที่และรุ่นที่ตามความต้องการของผู้มีอำนาจทางการเมือง ในกระทรวงมหาดไทย
วันที่ 30 หรือ 31 มีนาคม 2552
เวลากลางวัน นายวุฒิชัยได้เชิญ นาย สำราญ ตันเรืองศรี มาพบที่ห้องทำงานของนายวุฒิชัย จากนั้นได้นำคะแนนที่ตนจัดทำขึ้นทั้งกระดาษคำตอบปกสีเหลืองและปกสีชมพู ส่งให้กับนายดุสิต ศิริวราศัย เลขานุการของนายวุฒิชัย เป็นผู้เขียนตัวเลข ในแบบฟอร์มลงคะแนนวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป และวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง วิชาละ 31 หน้า จากนั้นนายวุฒิชัยได้ลงนามรับรองคะแนนในแบบฟอร์มวิชาความรู้ความสามารถทั่ว ไป ส่วนนายสำราญลงนามรับรองคะแนนในแบบฟอร์มวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง โดยไม่เคยนำกระดาษคำตอบปกสีชมพูไปให้นายสำราญตรวจแต่ประการใด
จากนั้นได้นำแบบฟอร์มคะแนนทั้ง 2 วิชาไปให้กับนายวีรเดช และนายอรรถพันธ์ ซึ่งเป็นผู้รวมคะแนนที่ได้รับจาก มสธ. และจาก ปค. ทั้งนี้ คะแนนที่ผู้เข้าสอบทำได้นั้นปรากฏว่าคะแนนจาก มสธ.ของผู้สอบมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้คะแนนจาก ปค.มีผลเป็นนัยสำคัญที่จะตัดสินว่าผู้ใดจะได้รับคัดเลือกเข้าอบรมครั้งนี้ ซึ่งเมื่อนำใบคะแนนส่วนของ ปค.ไปรวมแล้วเป็นผลให้ผู้ที่มีรายชื่อ 150 คน เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าอบรม นอ.สายผู้สอบคัดเลือก ตรงตามใบสั่งทุกราย
วันที่ 2 เมษายน 2552 ปค.ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบข้อเขียน โดยมีรายชื่อผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือดังกล่าว เป็นผู้ผ่านการสอบด้วย
วันที่ 21 เมษายน 2552 ผู้ผ่านการสอบข้อเขียนเข้าสอบสัมภาษณ์ เพื่อจัดอันดับคะแนนในระหว่างรุ่น 68-70
วันที่ 23 เมษายน 2552 ปค.ประกาศ ผลการคัดเลือกข้าราชการเข้ารับการอบรม นอ.ทั้ง 3 รุ่น คือ รุ่นที่ 68-70 โดยจัดเรียงลำดับสายสอบคัดเลือก 2 คน ต่อด้วยสายประสบการณ์ 1 คน ต่อด้วยสายสอบคัดเลือก 2 คน ฯลฯ จนครบตามจำนวน 288 คน และนัดหมายให้รายงานตัวในวันที่ 26 เมษายน 2552 ณ วิทยาลัยการปกครอง ส่วนสายผู้มีประสบการณ์นัดมารายงานตัววันที่ 21 เมษายน 2552
วันที่ 21 เมษายน 2552 มีผู้ผ่านการคัดเลือกสายผู้มีประสบการณ์ 2 คน ไม่มารายงานตัว ดังนั้น ในวันที่ 23 เมษายน 2552 ปค.จึงมีประกาศผลการคัดเลือกข้าราชการเข้ารับการอบรมเพิ่มเติม โดยเลื่อนลำดับผู้มีประสบการณ์ในลำดับถัดมา ได้แก่ นายอดิศักดิ์ ปัญญา และนายชนรัตน์ ชูประสิทธิ์ เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกด้วย
วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 12:30:21 น. มติชนออนไลน์
เปิดบันทึก"ป.ป.ช."ตีแผ่ พฤติกรรมทุจริตสอบเข้าร.ร.นายอำเภอ 3บิ๊กมท.ส่อผิดอาญา-วินัย 142ผู้เข้าสอบเจอด้วย (ตอนจบ)
![]() |
สำหรับ บันทึกมีความยาว 12 หน้า ระบุพฤติกรรมแห่งคดี 2 ช่วง "มติชน" นำเสนอช่วงแรกไปแล้ว เป็นพฤติกรรมการออกข้อสอบช่วยเหลือข้าราชการ 150 คน ที่ได้รับรายชื่อมาจากผู้มีอำนาจทางการเมือง อีกทั้งยังช่วยให้คะแนนสูงทั้งๆ ที่เขียนคำตอบไม่ดี ก่อนนำมาจัดลำดับที่และรุ่นให้สอบได้ ฉบับนี้จะนำเสนอช่วงที่สอง หลังเกิดกระแสข่าวเรียกรับเงินรายละ 8 แสนบาท ผู้เกี่ยวข้องเกรงจะถูกตรวจสอบ จึงให้ประธานทั้ง 3 รุ่น นำกระดาษเปล่าพร้อมแนวคำตอบไปให้ 150 คน เขียนคำตอบใหม่ย้อนหลัง
ใน ช่วงเดือนมีนาคม 2552 มีข่าวแพร่หลายว่าผู้บริหารกรมการปกครอง (ปค.) เรียกรับเงินถึง 8 แสนบาท/ราย เพื่อช่วยเหลือผู้เข้าสอบคัดเลือกให้สอบได้โดยลงข่าวในหนังสือพิมพ์ "มติชน" ในวันที่ 25 มีนาคม 2552 และข่าวดังกล่าวได้ส่งถึงคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติ มิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2552
คณะกรรมาธิการฯจึงมีหนังสือลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2552 ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชิญนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง (อปค.) ไปชี้แจงในวันที่ 28 พฤษภาคม 2552 ซึ่งนายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ (ผอ.กกจ.) ปค.ได้เข้าชี้แจงตามกำหนดนัด และในระหว่างการชี้แจงมีคำถามว่าผู้ตรวจข้อสอบอัตนัยให้คะแนนไปโดยไม่มีการ ตรวจกระดาษคำตอบ หรือเขียนคำตอบน้อย หรือไม่เขียนกลับได้คะแนนดี ซึ่งทำให้นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย เกรงว่าจะมีการตรวจสอบกระดาษคำตอบในรายที่ตนให้ความช่วยเหลือ
เมื่อ กลับจากการชี้แจงแล้ว นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย จึงหารือกันที่ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ ณ กรมการปกครอง และมีข้อตกลงที่จะปกปิดความผิด โดยจะดำเนินการปลอมกระดาษคำตอบเนื้อในซึ่งเป็นกระดาษสีขาว ทั้งในเล่มปกสีเหลืองและปกสีชมพู โดยจะนำกระดาษคำตอบเปล่าที่ยังไม่ได้ใช้ที่เก็บไว้ในห้องทำงานของนายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน ออกมาจำนวนหนึ่งตามจำนวนรายชื่อที่ช่วยเหลือไว้ พร้อมทั้งตรวจดูคำตอบของผู้ได้รับการช่วยเหลือไว้ว่า เขียนข้อความคำตอบของผู้ได้รับการช่วยเหลือไว้ว่า เขียนข้อความคำตอบได้สมควรกับคะแนนที่ให้ไปหรือไม่ หากรายใดได้คะแนนไม่สมควรก็ให้ดำเนินการปลอมเอกสารต่อไป โดยนำกระดาษคำตอบที่เหลือใช้ไปดำเนินการ
และให้นายคิม ปรีเปรม เลขานุการของนายวงศ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นประธานรุ่นที่ 68 ไปติดต่อให้ตัวแทนรุ่น 3 รุ่น ได้แก่ นายคิม ปรีเปรม รุ่นที่ 68 นายธีรเกียรติ ทะแพงพันธ์ รุ่นที่ 69 นายวิสุทธิ์ โรมินทร์ รุ่นที่ 70 และนายวัฒนา หัสจันทร์ รุ่นที่ 69 มาพบนายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัย ที่ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ ในวันหยุดประจำสัปดาห์ในวันเสาร์ หรือวันอาทิตย์เพื่อนำกระดาษคำตอบเปล่าไปให้รายชื่อบุคคลที่ช่วยเหลือไว้ไป เขียนคำตอบใหม่ โดยให้ตัวอย่างการเขียนที่ทำให้คะแนนได้สูงไปประมาณ 3-4 ตัวอย่าง ให้แต่ละคนไปคัดลอกให้คล้ายตัวอย่างดังกล่าว แล้วนำกลับมามอบให้นายวุฒิชัย ซึ่งตัวแทนทั้ง 3 รุ่น ก็ได้เดินทางมาพบและรับไปดำเนินการตามคำสั่งของนายวงศ์ศักดิ์ดังกล่าว
หลัง จากนั้นตัวแทนรุ่นได้นำกระดาษคำตอบเปล่าไปให้ผู้เข้าสอบที่มีรายชื่อรวม 142 คน (รายชื่อปรากฏตามเอกสารแนบ) ดำเนินการเขียนข้อความดังกล่าวเพื่อนำมาใช้สอดแทรกแทนเนื้อในกระดาษคำตอบ เดิมทั้งสมุดปกสีเหลืองและปกสีชมพู เมื่อดำเนินแล้วเสร็จตัวแทนรุ่นก็ได้นำกระดาษคำตอบมาส่งให้กับนายวุฒิชัย ซึ่งนายวุฒิชัยก็ดำเนินการปลอมเอกสารกระดาษคำตอบโดยวิธีแกะเนื้อกระดาษคำตอบ สีขาวที่อยู่ด้านในของชุดเดิมซึ่งเก็บอยู่ในห้องทำงานของนายวุฒิชัยออก คงเหลือแต่ปกสมุดทั้ง 2 สีไว้ (เนื่องจากปกสมุดมีลายมือชื่อผู้คุมห้องสอบและเลขรหัสกำกับอยู่ ยากต่อการปลอมขึ้นใหม่) จากนั้นได้นำกระดาษคำตอบที่ทำขึ้นใหม่ที่รับจากตัวแทนรุ่น แกะเนื้อกระดาษคำตอบสีขาวที่เขียนขึ้นใหม่ออกมาแล้วสวมเข้ารวมไปกับปกสมุดคำ ตอบเดิม ทั้งนี้ ร่องรอยการปลอมนั้นสามารถเปิดสมุดคำตอบในหน้าที่ 4 ถึง 5 ออกมาดูจะปรากฏว่ามีร่องรอยรูตรงจุดรอยเย็บกระดาษเก่าค้างอยู่ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
วันที่ 12 และ 15 มิถุนายน 2552 เจ้าพนักงาน ป.ป.ช. ได้เดินทางไปขอรับกระดาษคำตอบอัตนัยทั้งสมุดจากกองการเจ้าหน้าที่ และได้นำกระดาษคำตอบมาเก็บรักษาไว้
เจ้าพนักงาน ป.ป.ช.ได้จำแนกกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งมีลักษณะการเขียนคำตอบคล้ายกันออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 จำนวน 47 ราย
กลุ่มที่ 2 จำนวน 36 ราย
กลุ่มที่ 3 จำนวน 24 ราย
ทั้ง นี้ ผลการจำแนกกลุ่มดังกล่าวสอดคล้องกับผลการไต่สวนข้างต้นที่ว่ามีการมอบ ตัวอย่างประมาณ 3-4 แบบ ให้ตัวแทนรุ่นที่ 68, 69 และ 70 นำไปให้ผู้ได้รับการช่วยเหลือและเป็นผู้เข้าสอบ 142 รายเขียนขึ้นใหม่
เจ้า พนักงาน ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบสมุดคำตอบที่เหลือใช้จากการสอบของกองการเจ้าหน้าที่แล้วผล การตรวจสอบได้ความว่า โดยปกติจะต้องเหลือสมุดคำตอบภาคเช้าปกสีเหลือง 510 เล่ม และภาคบ่ายปกสีชมพู 513 เล่ม แต่กลับเหลือจริงเพียง ภาคเช้าสีเหลือง 299 เล่ม และภาคบ่ายสีชมพู 342 เล่ม ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่าสมุดคำตอบที่สูญหายไปได้ถูกนำไปใช้กระทำความผิดตามที่กล่าวมา ข้างต้น
สำนักงาน ป.ป.ช.ได้มีหนังสือ ที่ ปช 0014/6676 ลงวันที่ 9 กันยายน 2552 ถึงอธิการวิทยาลัยการปกครอง เพื่อให้อำนวยความสะดวก โดยนัดหมายให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ช.พบกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นนักศึกษาหลักสูตรนายอำเภอทั้ง 142 คน ในวันที่ 9 กันยายน 2552 และดำเนินการให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 คน เขียนข้อความเลียนข้อความในกระดาษคำตอบของกลาง ผลปรากฏว่า ลายมือเขียนเหมือนกันและผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 คน ยืนยันรับรองว่าตนเป็นผู้เขียนข้อความในกระดาษคำตอบของกลางด้วยตนเอง
คณะ กรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของนายวงศ์ศักดิ์ นายวุฒิชัย นายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรมและนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ มีความผิด ดังนี้
ทางวินัย
ฐาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551
ทางอาญา
ฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษา เอกสารกระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้นฐานเป็นเจ้า พนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารกระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตาม หน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความ เท็จรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอัน เป็นความเท็จประมวลกฎหมายอาญา
ผู้เข้าสอบคัดเลือกอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ปีงบประมาณ จำนวน 142 คน มีมูลความผิดดังนี้
ทางวินัย
ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551
ทางอาญา
ฐาน เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสารกระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาส ที่ตนมีหน้าที่นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารกระทำการดังต่อไปนี้ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความ เท็จรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอัน เป็นความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา
คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงขอแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวให้ท่านทราบเพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป
องค์ คณะการไต่สวนและคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ช่วยในการไต่สวนข้อเท็จจริง ได้แจ้งให้ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาทราบ ในการแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ด้วยว่า ในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาอาจชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาโดยทำเป็นหนังสือชี้แจงด้วยวาจาก็ได้ และผู้ถูกกล่าวหามีสิทธินำทนายความหรือบุคคลที่ผู้ถูกกล่าวหาไว้วางใจเข้า ฟังการชี้แจงหรือให้ปากคำของตนได้ แต่จะทำการชี้แจงแทนไม่ได้ การนำสืบแก้ข้อกล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหาจะนำพยานหลักฐานมาเอง หรือจะอ้างพยานหลักฐานแล้ว ขอให้พนักงานไต่สวนเรียกพยานหลักฐานมาก็ได้ โดยถ้อยคำหรือคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าวอาจใช้เป็นพยานหลักฐานยันผู้ ถูกกล่าวหาในการพิจารณาได้ ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและนำสืบแก้ข้อกล่าวหาภายใน เวลาอันสมควรแต่อย่างช้าไม่เกิน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับทราบข้อกล่าวหา
ข้อสอบที่โดนจับพิรุธ
คำถาม 2 ข้อในข้อสอบอัตนัยที่มีการให้ข้าราชการ 142 คน เขียนคำตอบใหม่แล้วนำไปแทรกแทนเนื้อในกระดาษคำตอบเดิม จน ป.ป.ช.จับพิรุธได้
@ วิชาความรู้ความสามารถทั่วไป
ถาม ว่า อำเภอซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการที่จะ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชนทั้งด้านสังคมเศรษฐกิจ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากท่านเป็นนายอำเภอท่านจะนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเครื่องมือในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" แก่ประชาชนในทุกๆ ด้านให้มีความมั่นคงและยั่งยืนได้อย่างไร อธิบาย
@ วิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง
ถาม ว่า นายอำเภอในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอทุกส่วนราชการเป็นผู้ช่วยในงานเฉพาะด้าน และยังมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือในภารกิจของนายอำเภอ ถ้าท่านเป็นนายอำเภอ ท่านมีหลักในการปฏิบัติงานกับ (ก) หัวหน้าส่วนราชการ (ข) กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอย่างไร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด อธิบาย